Wanda Vision คู่รักซูเปอร์ฮีโร่สุดดราม่า เรื่องราวชีวิตวันด้าวิสชั่นหลังจบ “Avengers: Endgame”

Wanda Vision การข้ามผ่านความสูญเสียของคู่รักซูเปอร์ฮีโร่ ในซิตคอมเรื่องแรกของมาร์เวล

Wanda Vision ถึงแม้ว่าสงครามใหญ่อย่าง “Avengers: Endgame” จะจบลงไปแล้ว แต่ชีวิตของตัวละครซูเปอร์ฮีโร่ ในศึกใหญ่ครั้งนั้น ที่เราติดตามกันมาตลอด มันยังไม่จบและซีรีส์ “Wanda Vision” เป็นจุดเริ่มต้นที่จะบอกเล่า ถึงเรื่องราวหลังจากนั้นที่มี “แจ็ก เชเฟอร์” ทำหน้าที่โปรดิวเซอร์และเขียนบท ซึ่งความน่าสนใจก็คือ เขาเป็นผู้เขียนบทและวางทิศทาง ให้กับฮีโร่พลังหญิงของ Marvel มาแล้วถึง 2 เรื่อง

นั่นก็คือ Captain Marvel (2019) และ Black Widow และในจักรวาล Marvel ตัวละคร “Wanda” เธอเองก็มีชีวิตที่น่าสงสารมาก เธอเต็มไปด้วยความสูญเสีย และถ้าเปรียบอายุของเธอ ในเรื่องเธอก็ยังไม่ได้เป็นผู้ใหญ่เต็มที่เลย แต่กลับต้องมาแบกรับ กับความเศร้าที่มากมายถึงขนาดนี้

ในซีรีย์นี้ผู้ชมจะยิ่งได้เห็นถึง ความเศร้าและความทุกข์ ที่กัดกินหัวใจเธอมาตลอดสำหรับ “Wanda Vision” เป็นซีรีส์แนวซิตคอม ซีรีส์มาร์เวล ที่ฉีกมาจากซีรีส์เรื่องอื่นๆของ Marvel ด้วยวิธีการเล่าเรื่อง แบบซิตคอมที่ย้อนยุค ไล่ตั้งแต่ยุค 1950s มาจนถึงยุคปัจจุบัน เปิดเรื่องมาด้วยการ ย้ายเข้าบ้านใหม่

และการพยายามปรับตัวให้ดูเป็นคน ปกติของทั้งสองคน จากนั้นเรื่องจะค่อยๆ เฉลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวละคร และทำไมในทุๆกตอน โลกของวันด้าและวิสชั่น ถึงเปลี่ยนไปตามยุคสมัยอย่างรวดเร็ว ซึ่งใน 1-3 ตอนแรกคนดูอาจจะงง กับสไตล์การเล่าเรื่อง ที่แตกต่างและเรื่องที่ดูไม่เกี่ยวอะไร กับสิ่งที่เราเคยดูกันมา

แต่ในตอนท้ายเมื่อเรื่องราวคลี่คลาย ทุกอย่างเราจะพบว่า มีความสนุกอย่างที่เราคุ้นเคย ผสมกับรสชาติแปลกใหม่ได้อย่างลงตัว ซีรีส์มาร์เวล แม่มดที่มีพลังมากกว่ามหาจอมเวทย์

Wanda Vision

Wanda Vision เรื่องราวของ “Wanda Maximoff” และ “Vision” ที่ใครก็มองเธอเป็นตัวร้าย

ซีรีส์มาร์เวล เรื่องราวการใช้ชีวิตร่วมกันของ วันด้า (อลิซาเบธ โอลเซน) และ วิสชั่น (พอล เบตตานีย์) ทั้ง 2 มีชีวิตครอบครัวที่สุขสันต์ ในเมืองเล็กๆที่ชื่อว่าเวสต์วิว ในบ้านอันแสนอบอุ่น มีชีวิตสุดแสนเพอเฟ็ค ในชุมชนเล็กๆที่ผู้คน ล้วนแต่เป็นมิตรกัน ทั้งสองใช้ชีวิตร่วมกัน ผ่านช่วงเวลาหลายยุค ตั้งแต่ยุค 50s มาถึงยุคปัจจุบัน แม่มดที่มีพลังมากกว่ามหาจอมเวทย์

วันด้าในฐานะภรรยา หลายสิ่งหลายอย่างที่ติดขัด หรือการทำอาหาร เธอก็สามารถเนรมิตขึ้นมาได้ ด้วยพลังวิเศษของเธอเอง ส่วนวิสชั่นก็ไปทำงานนอกบ้าน เป็นพนักงานบริษัท หากไม่มีใครที่สังเกต ครอบครัวนี้ก็ใช้ชีวิตปกติ ที่ไม่ต่างกับคนธรรมดาทั่วไปเลย ต่อมาทั้งสองก็มีลูกชายแฝดน่ารักสองคน

แต่ทว่าอยู่ไปอยู่มา วิสชั่นก็เริ่มสังเกตว่า ทุกสิ่งที่เป็นอยู่นั้นมันผิดปกติ ตัววันด้าเองก็เห็นบางสิ่งบางอย่าง ที่มันอยู่ผิดที่ผิดทาง ไม่ว่าจะเป็นคนแปลกหน้า ที่ขึ้นมาจากท่อ ของเล่นผิดยุคสมัย เพื่อนบ้านและผู้คนในเมือง ก็เริ่มทำตัวแปลกๆขึ้น ซึ่งวันด้าเองรู้ว่านี่อาจจะเป็น สัญญาณบางอย่างว่า

มีอะไรมาทำให้ครอบครัวของเธอ ไม่มีความสุขอย่างที่เคยเป็น ทั้งสองสงสัยว่าทุกสิ่งทุกอย่าง รอบตัวมันไม่ได้เป็นแบบที่เห็น ที่สำคัญศัตรูอันเลวร้าย และทรงพลังที่ไม่แพ้วันด้า กำลังแฝงตัวเข้ามา วันด้าในฐานะภรรยาที่แสนดี และแม่ผู้แสนจะอบอุ่น แม่มดที่มีพลังมากกว่ามหาจอมเวทย์ ต้องปกป้องครอบครัวของเธอเอาไว้ให้ได้ ซีรีส์มาร์เวล

เพราะทุกอย่างที่เธอคิดว่า เหมือนจะราบรื่นดี แต่กลับมีจุดเล็กๆน้อยๆ ที่ชวนให้สงสัยว่าสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ไม่ปกติ ไม่ว่าจะเป็นการมาของ S.W.O.R.D หน่วยงานที่ทำหน้าที่ จับตาดูเหล่าผู้มีพลังพิเศษ กำลังสืบคดีการหายตัวปริศนา ของคนจำนวนมากและ ได้พบเบาะแสที่โยงไปที่ตัวของวันด้า จนเป็นจุดเริ่มต้นสู่เหตุการณ์สำคัญ ที่สั่นสะเทือนจักรวาล MCU แม่มดที่มีพลังมากกว่ามหาจอมเวทย์

Wanda Vision

ซูเปอร์ฮีโร่คู่รัก ที่กลายเป็นคนในซิทคอมทีวียุคขาวดำในโลก 5 ปีถัดมา หลังจากการดีดนิ้วของธานอส

ซีรีส์มาร์เวล ผู้กองโมนิก้า แรมโบ (Teyonah Parris) แห่ง S.W.O.R.D. เธอกลับมาหลังจากที่ร่าง สลายหายหน้าไปกว่าห้าปี ก่อนจะได้รับรู้ว่า แม่ของเธอตายไปแล้ว ในระหว่างนั้น เธอกลับเข้าทำงาน เจอหน้ารักษาการผู้อำนวยการ เฮย์เวิร์ด (Josh Stamberg)

ที่ส่งเธอไปรับหน้าที่ประสานงานกับ จิมมี่ วู (Randall Park) เอฟบีโอในแผนคุ้มครองพยาน ตำรวจเล่าว่าเมือง Westview ไม่มีอยู่จริงๆแต่ว่า เธอกลับหายเข้าไปในนั้นได้ยังไง ส่วนอีกด้านหนึ่งของ S.W.O.R.D. ก็ได้ส่งอีกทีมมาสืบหาคำตอบ หนึ่งในนั้นคือ ดร.ดาร์ซี่ ลูอิส (Kat Dennings)

สาวแว่นคนสวยที่เก่งกาจ ด้านฟิสิกส์ดาราศาสตร์ เธอเป็นคนค้นพบเหตุแปลกประหลาด เพราะว่าสัญญาณที่ส่งออกมานั้น กลับกลายเป็นซิทคอม ภาพขาวดำสไตล์ยุค 50’s และที่น่าแปลกว่านั้น คือมันจะเป็นไปได้ยังไง ทุกอย่างเริ่มเข้าเค้ามากขึ้น ยิ่งเรื่องราวดำเนินไป สิ่งที่ทำให้ผู้ชมสงสัยมาตลอด 3 ตอน

ก็เริ่มมีคำอธิบาย สิ่งที่อยู่ในซิทคอม กับสิ่งที่โลกภายนอก กำลังหาคำตอบอยู่ มันกำลังเจอกันถึงตรงนี้ คนที่อดทนกับความมึนงง สงสัยมาตลอดก็เริ่มได้คำอธิบาย เหมือนกับผู้ชมจะได้รับรู้แล้วว่า มันเกิดอะไรขึ้นกับเมือง Westview นี้กันแน่ และสิ่งประหลาด ที่ปรากฏอยู่ในทุกตอนนั้นคืออะไร

แต่ว่าความสนุกของมัน ก็ไม่หยุดเพียงแค่ตรงนี้ นอกเหนือจากภาพของซิทคอม ที่ดูทันสมัยขึ้นเรื่อยๆ ในซิทคอมก็มีตัวละครใหม่ๆ มาให้เซอร์ไพรส์เพิ่มเรื่อยๆให้กับคนดู อีกหนึ่งสิ่งที่เห็นได้ชัดที่สุด ตั้งแต่แรกเห็นก็คือ ไอเดียที่ไม่เหมือนใคร กับการที่นำซูเปอร์ฮีโร่ ที่ผู้คนรับรู้กันว่าพวกเขาตายไปแล้ว

จากการดีดนิ้วของธานอส กลับมาสู่หน้าจออีกครั้ง และบอกเล่ามันผ่านรูปแบบ ซีรีส์มาร์เวล ไอเดียนั้นก็คือการ สร้างเมืองขึ้นมาหนึ่งเมือง แล้วให้ตัวละครคู่รักฮีโร่ อาศัยอยู่ในนั้น พร้อมกับสร้างเป็นรายการซิทคอมย้อนยุค ทำทุกอย่างให้เหมือนซิทคอม ในยุคสมัยนั้นจริงๆ ที่เป๊ะกระทั่งโฆษณาสินค้า คั่นกลางซิตคอม เพื่อที่เธอจะได้อาศัยอยู่แค่ในโลกของตัวเอง โลกที่วันด้าอยากให้เป็น แม่มดที่มีพลังมากกว่ามหาจอมเวทย์

ทุกอย่างเต็มไปด้วยความความคาดไม่ถึง และเต็มไปด้วยเรื่องราวที่หักมุม

ซีรีส์มาร์เวล การปฏิเสธความจริงของวันด้า ที่สะท้อนผ่านการสร้างโลกในอุดมคติ ที่ทุกวันจะจบอย่างแฮปปี้เอนดิ้ง ในรูปแบบของซิตคอม เพราะตลอดชีวิตของวันด้า ซิตคอมเป็นสิ่งที่ ช่วยปลอบประโลมใจ ในวันที่เธออ่อนแอ วันด้าจึงปฏิเสธความจริงทุกอย่าง แล้วฝังตัวเองเข้าไป ในโลกมายาที่เธอสร้างขึ้น แม่มดที่มีพลังมากกว่ามหาจอมเวทย์

และมองข้ามทุกอย่างที่จะเรียกเธอ กลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง แม้ความเป็นจริงและความเศร้า จะกลับมาหลอกหลอนเธอบ่อยขึ้นทุกที และตัวเรื่องเองได้ประสานไปกับ เส้นเรื่องหลักของจักรวาลมาร์เวลเป็นอย่างดี นอกจากนี้ “WandaVision” ก็ยังคงเสน่ห์ในการใส่ Easter Egg ในรายละเอียดไว้อย่างเช่น

ของประกอบฉาก โฆษณาปลอม ไตเติ้ลและเนื้อเพลง ที่สะท้อนความรู้สึกของวันด้า ถูกใช้เป็นลางบอกเหตุ แน่นอนว่าสิ่งหนึ่งที่ทำให้แฟนๆ ไม่ควรพลาดหนังหรือซีรีส์ ในจักรวาล Marvel ก็เพราะทุกๆผลงาน ที่ออกสู่สายตาคือหนึ่งภาพ ที่สมบูรณ์แบบในตัว ซึ่งในขณะเดียวกันก็ยังเป็น หนึ่งในชิ้นส่วนของภาพที่ใหญ่กว่า ซึ่งใน “WandaVision” ก็เช่นกันที่บทสรุปของเรื่องราว คือการปูทางไปสู่สิ่งที่ใหญ่กว่า ซีรีส์มาร์เวล แม่มดที่มีพลังมากกว่ามหาจอมเวทย์

Wanda Vision

ไม่ว่าจะ Wanda Maximoff  หรือ Scarlet Witch บอกเลยว่าแม่ก็คือแม่

ซีรีส์ของ Disney ซีรีส์มาร์เวล ที่ร่วมกับ Marvel เข้าฉายผ่านระบบสตรีมมิงอย่าง Disney+ Hotstar ซึ่งเป็นซีรีส์ที่คว้าอันดับหนึ่ง ในช่วงที่ออกอากาศ “WandaVision” แม่มดที่มีพลังมากกว่ามหาจอมเวทย์ คือซีรีส์ที่ประเดิมเรื่องแรกของ Marvel ในตอนนั้น “WandaVision” ยังเข้าชิงรางวัลในเวทีต่างๆ

และคว้ารางวัลกลับมาได้พอสมควร ไม่ว่าจะเป็น รางวัลจาก MTV Movie & TV Award 2021 สาขาซีรีส์ยอดเยี่ยม สาขาการฉากต่อสู้ยอดเยี่ยม สาขาการแสดงยอดเยี่ยม ที่ผู้ชนะรางวัลนี้คือ นักแสดงนำของเรื่องอย่าง อลิซาเบธ โอลเซน (Elizabeth Olsen)

และสาขาตัวร้ายยอดเยี่ยมโดย แคทริน ฮาห์น (Kathryn Hahn) ในบท อกาธา ฮาร์คเนสส์ คว้ารางวัลนี้ไป นอกจากนี้ WandaVision ยังเป็นซีรีส์เรื่องแรกของ Marvel ที่คว้ารางวัลจาก Emmy Award มาครองได้อีกด้วย โดยชนะในสาขาการออกแบบการผลิตและเครื่องแต่งกาย

บอกเลยว่าถ้าหากใครที่ได้ดูซีรีส์ WandaVision จบลงแล้วเชื่อว่าทุกคน จะต้องหลงรักกับเธอคนนี้ Wanda Maximoff หรือ Scarlet Witch แม่มดที่มีพลังมากกว่ามหาจอมเวทย์ อย่างแน่นอน

ข่าวสารเพิ่มเติม : ดูบอล

อ่านซีรีส์เรื่องอื่นเพิ่มเติม : สุดยอดซีรีส์แนวระทึกขวัญจากเกาหลีใต้