The Jungle Book “เมาคลีลูกหมาป่า” หนังผจญภัย จากการ์ตูนดิสนี่ย์คลาสสิค
The Jungle Book “เมาคลีลูกหมาป่า” ภาพยนตร์ผจญภัยน่าดูปี2016 เรื่องเล่าที่เคยอยู่ในหนังสือสมัยเด็กๆ ที่ถูกนำมาสร้างเป็น การ์ตูนแอนิเมชั่น ให้ชมกันทั่วโลกเมื่อนานมาแล้ว และกลับมาอีกครั้งพร้อมกับ เทคโนโลยีการสร้าง ที่สุดอลังการพัฒนาแบบสุดๆ จากการ์ตูนกลายมาเป็น ภาพเคลื่อนไหวที่ สร้างขึ้นมาผสมผสาน ระหว่างการแสดงของคนจริงๆ กับทัศนียภาพของป่า และสิงสาราสัตว์ทั้งหลาย
ที่ทั้งหมดเหล่านั้น ล้วนเป็นผลงานมาจาก คอมพิวเตอร์ล้วนๆ CG ล้วนๆ ทั้งการเดินเรื่องที่ชวนติดตาม ภาพที่ออกมาสวยงาม และสมจริง เนียนเว่อร์สุดๆ เหมือนราวกับว่าหนัง ได้พาเราเข้าไปหลงอยู่ในป่า กับหนูน้อยเมาคลี ซึ่งรับบทโดย “นีล เซ็ทธิ” (ลูกครึ่งอเมริกัน-อินเดีย) และก็ต้องยอมในความเก่ง ของหนูน้อยคนนี้จริงๆ เพราะว่าน้องเป็นนักแสดง เพียงหนึ่งเดียวในเรื่อง ภาพยนตร์ผจญภัยน่าดูปี2016
ที่ต้องเล่นกับสัตว์CG และมโนว่าฉากหลังคือผืนป่า ทั้งๆที่ตอนถ่ายทำ อยู่แค่ในสตูดิโอและ ฉากบลูสกรีนเท่านั้น แต่ด้วยความลื่นของการเล่าเรื่อง ก็ทำให้เราพร้อมจะเพลินไปกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่หนังนำมาบอกเล่า โดยลืมไปเลยว่ามันเป็น CG เป็นภาพยนตร์ที่ ให้ความรู้สึกเหมือนว่า ได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง
เพราะเชื่อว่าทุกคนต้องเคยดู ในฉบับการ์ตูน หรือเคยอ่านในหนังสือบ้างแน่นอน คือแม้จะรู้เรื่องราวของ เจ้าหนูเมาคลีแล้วก็ตาม แต่หนังเรื่องนี้ ทำออกมาแบบเล่าได้สนุก น่าติดตามตลอดตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง และหนังก็มีหลายอารมณ์ ครบทั้งผจญภัย สนุก ตื่นเต้น ระทึก เศร้า ขำขัน
ซึ่งแต่ละอารมณ์นั้น ก็โผล่มาแบบพอดี ทำให้เรื่องนี้ลงตัวไม่มีอะไรไม่ขาดไม่เกิน ต้องบอกเลยว่าผู้กำกับอย่าง “จอน แฟฟโร” เก่งมากจริงๆเล่าเรื่องได้สนุก ทำให้การผจญภัย ของเมาคลีดูมีชีวิตขึ้นมา และยังสอดแทรกแง่คิด ปรัชญาน่าสนใจใส่ลงมาเป็นระยะ มันไม่ได้ลึกซึ้งมากมาย
แต่ก็ถือว่าเป็นใจความสำคัญของเรื่องราว เมาคลีลูกหมาป่า ที่สอนให้เราได้คิดใคร่ครวญ ถึงการใช้ชีวิต, การเอาตัวรอด, การอยู่ร่วมกันระหว่างคนกับสัตว์, สมดุลย์แห่งธรรมชาติ และผลแห่งการกระทำของตนเอง ภาพยนตร์ผจญภัยน่าดูปี2016
The Jungle Book “เมาคลีลูกหมาป่า” การผจญภัยท่ามกลางป่าใหญ่ของเจ้าหนู เมาคลี
ภาพยนตร์ผจญภัยน่าดูปี2016 The Jungle Book เรื่องการผจญภัยของ เมาคลีลูกหมาป่า (Neel Sethi) เด็กน้อยที่เติบโต ในอ้อมกอดของป่า โดยครอบครัวของหมาป่า จากความอารีของเสือดำ “บากีร่า” (Ben Kingsley) ที่พาเขาให้มาอยู่กับฝูงหมาป่า ที่นำโดยอาคีล่าโดยมี รัคชา (Lupita Nyong’o) แม่หมาป่าสีเทาขาว ที่เลี้ยงมาพร้อมกับ ลูกน้อยของตัวเอง
เขาได้เรียนรู้ระบบ ฝูงจากกลุ่มหมาป่า แต่เขาก็ดูเหมือนจะโตช้า กว่าลูกหมาป่าตัวอื่นๆ อีกทั้งความสามารถ และสัญชาตญานยังไม่อาจจะ เทียบเทียมลูกหมาป่าได้ นั่นเพราะเขาเป็นลูกมนุษย์ แต่เมาคลีพบว่า เขาไม่เป็นที่ต้อนรับ ในป่าแห่งนี้อีกต่อไปเมื่อ “แชร์คาน” (Idris Elba) เสือร้ายผู้น่าเกรงขาม
ที่จงเกลียดจงชังในตัวมนุษย์มาก เพราะว่าเขามีแผลเป็น จากฝีมือมนุษย์นั่นเอง และให้คำมั่นว่าจะกำจัดทุกสิ่ง ที่เขาเห็นว่าเป็นภัยคุกคาม หลังจากถูกขับไล่จากบ้าน เพียงหลังเดียวที่เขามี เมาคลีจึงออกเดินทาง เพื่อค้นหาตัวเองในการผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่ โดยได้รับการชี้แนะ
จากคู่หูที่กลายมาเป็นอาจารย์อย่าง “บากีร่า” และหมีผู้มีจิตวิญญาณอิสระ “บาลู” (Bill Murray) โดยระหว่างทาง เมาคลีได้เผชิญหน้า กับเหล่าสัตว์ป่าที่ไม่ได้ให้ความสนใจ ในจิตใจของเขาไปรวมถึง “คา” (Scarlett Johansson) งูเหลือมที่เสียงอันเย้ายวน ผู้ปากหวาน และจ้องสะกดจิตเด็กน้อยคนนี้
รวมไปถึง คิง ลูอี้ (Christopher Walken) ราชาอุรังอุตังผู้ทะเยอทะยาน ที่พยายามจะบังคับเมาคลี ให้เปิดเผยความลับ ของพลังอันอันตราย และอธิบายไม่ได้ของ ดอกไม้แดง หรือที่เราเรียกกันว่า ”ไฟ” ภาพยนตร์ผจญภัยน่าดูปี2016
ผลงานนักแสดงตัวจิ๋ว ที่ความสามารถไม่จิ๋วเลยใน “เมาคลีลูกหมาป่า”
เมาคลีลูกหมาป่า The Jungle Book ที่นำแสดงโดยหนูน้อย นีล เซธี (Neel Sethi) ในตอนที่มารับบท เป็นเด็กเพียงแค่วัย 12 ปี ที่เล่นหนังได้สดใสและไหลลื่นมาก ไม่น่าเชื่อว่านี่คือเด็ก ที่เล่นหนังเรื่องแรก สมแล้วที่เอาชนะคู่แข่งทั้ง 2,000 คนมาได้ ทั้งหมดล้วนทำให้ The Jungle Book เป็นหนังที่ต้องดู สนุกได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่
สมแล้วที่หนังครองอันดับ 1 ติดต่อกันมาได้ 2 สัปดาห์ตั้งแต่เปิดตัว และมีทุนสร้าง 175 ล้านเหรียญ กวาดไปแล้ว 533 ล้านเหรียญ ตอนนี้ดิสนีย์เดินหน้าสร้างภาค 2 แล้วครับ น่าจะพูดถึงเมาคลีตอนโตเป็นหนุ่ม ซึ่งเป็นงานกำกับของ Jon Favreau ผู้มีเครดิตผลงานมาจาก Iron Man ทั้งภาค 1 และ 2
รวมไปถึง Cowboys & Aliens และ Chef พอจะทำให้อุ่นใจได้ประมาณหนึ่งว่าเขาจะทำThe Jungle Book เวอร์ชั่นคนแสดง ผสมซีจีได้อย่างน่าตื่นใจ เมื่อได้พบกับของจริง ในโรงหนังจอใหญ่ยักษ์ จะพบได้เลยว่าเรื่องราว มันถูกเรียงร้อยมาอย่างดี การดำเนินไปของเรื่องนั้น ค่อนข้างลื่นไหล
สร้างแรงกระเพื่อมในใจได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงฉากดราม่า ที่พาให้อินก็ทำได้ถึง พาน้ำตาซึมได้ ขณะที่ช็อตแอ็คชั่นตื่นเต้น ก็เร้าใจลุ้นให้เมาคลี เอาตัวรอดไปได้เช่นกัน The Jungle Book ภาพยนตร์ผจญภัยน่าดูปี2016
ความตื่นตาตื่นใจในระบบ CG ที่ไม่คิดว่าเด็กคนเดียวจะทำได้มากขนาดนี้
ภาพยนตร์ผจญภัยน่าดูปี2016 ความอัศจรรย์ของงาน CG จากที่เราเคยตื่นเต้นกับภาพเสือใน Life Of Pie ว่าช่างเหมือนจริงอะไรเพียงนี้ เทคนิคที่เคยสร้าง เสือตัวเดียวให้ฮือฮาไปทั่วโลก พอมาถึงรอบนี้สามารถเนรมิตรสัตว์ให้เราดูถึง 70 สายพันธุ์ ดูเหมือนจริงไปหมดทั้งการเคลื่อนไหว แล้วยังขยับปาก ได้ตรงกับเสียงพูดทุกคำอีกด้วย
ไม่ใช่แค่เพียงสัตว์เท่านั้น แต่ภาพบรรยากาศป่าก็ดูสมจริงเสียเหลือเกิน แทบไม่น่าเชื่อว่า ทั้งเรื่องนี้ถ่ายกันในสตูดิโอล้วนๆ ทีมงานลงรายละเอียด ของบรรยากาศป่าอินเดียได้เหมือนจริง ด้วยการส่งทีมงาน ไปถ่ายภาพป่าในอินเดีย มาเป็นกว่าพันภาพ แล้วสร้างภาพซีจีเลียนแบบ
สีสันบรรยากาศของป่าในแต่ละฉาก ก็ยังสามารถสื่ออารมณ์ ของเรื่องราวของเรื่องได้เป็นอย่างดี เนินหมาป่าที่เป็นเนินโล่งกว้าง ไม่มีกำแพงรายล้อม ให้รู้สึกปลอดภัยก็เข้าเชื่อมความรู้สึก เข้ากับเรื่องราวในช่วงนั้น ที่ไม่รู้ว่าเชียคานจะบุกมาเมื่อไหร่ ป่าดวงดิบของคา ที่ดูมืดลึกลับมองไปไกลๆแล้ว
ก็แทบจะไม่เห็นอะไร แต่พอถึงเขตแดนของบาลู กลับมีสีสันเต็มไปหมด ทั้งต้นไม้เขียวๆดอกไม้สวยงาม น้ำลำธารที่ชุ่มฉ่ำ ก็เป็นชีวิตที่เต็มไปด้วยสีสัน สนุกสนานของเมาคลี ตอนที่ได้อยู่กับบาลู The Jungle Book
“เมาคลีลูกหมาป่า” ภาพยนตร์คุณภาพที่ห้ามพลาด ที่ผู้คนต่างหลงรัก
ภาพยนตร์ผจญภัยน่าดูปี2016 ของผู้สร้างอย่าง Jonathan Favreau ก็ยังไม่ลืมคุณค่าของนิทานคลาสสิค ที่แทรกข้อคิดดีๆเอาไว้มากมาย ทั้งความกล้าหาญ และความเสียสละ ของเมาคลีได้ความบริสุทธิ์จริงใจ ของเมาคลีที่ชนะใจ บาลูหมีเจ้าเล่ห์ได้ และการอยู่ด้วยกัน และยอมรับข้อแตกต่าง ซึ่งกันและกัน
ท้ายที่สุดบากีร่าก็ต้องยอมรับความสามารถ ในด้านที่เป็นมนุษย์น้องของเมาคลี ทั้งที่เขาเองเป็นคนห้าม ไม่ให้เมาคลีมีพฤติกรรม แบบมนุษย์มาโดยตลอด เรียกว่าเป็นหนังที่ เหมาะกับแก่ชมในมาก เนื่องจากหนังถ่ายทอดความตื่นตาตื่นใจของป่า ได้ดีและฉากซีจีที่เราไม่คิดเลยว่า มันสร้างมาจากคอมพิวเตอร์ ภาพยนตร์ผจญภัยน่าดูปี2016
ซีรีส์น่าดู : ปมปีศาจ
ข่าวสารเพิ่มเติม : ดูบอล
